3.2.11

รีวิว : เซบีย่า (โกปาเดลเรย์ เลค 2)


ผลรวมสองนัด 3-0 เข้ารอบชิง โกปาเดลเรย์ ครั้งแรกในรอบ 17 ปี! :D

ก่อนจะไปรีวิวเกมส์นี้ ขออัพเดทโทษที่ เซบีย่า ได้รับจากพฤติกรรมแฟนบอลในสนาม ซานเชส ปิซกวน ในเลกแรกก่อนละกัน...โดยบทลงโทษคือ...เซบีย่าจะถูกปรับ 3,000 ยูโร และ ถูกเตือนว่าหากเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกในซีซั่นนี้ สนาม ปิซกวน อาจจะถูกปิดไม่หนึ่งนัดก็สองนัด...ส่วน โอซาซูน่า ที่โยนบอลเข้ามาในสนามโดนปรับ 602 ยูโร (แค่เนี้ย??)

กลับมาพูดถึงเกมส์วันนี้ดีกว่า หลายๆคนบอกว่านัดนี้เราเล่นไม่ค่อยดี แต่ก็ยังดีที่ชนะ...ผมก็เห็นด้วยส่วนนึงนะครับ คือเรามีจังหวะต่อบอลสวยๆหลายต่อหลายครั้ง เราสามารถชนะได้เยอะกว่านี้ หลายๆจังหวะเรายังทำได้ดีกว่านี้มาก แต่ก็โชคดีที่ ฝั่ง เซบีย่า ก็เล่นไม่ดีเหมือนกัน สิ่งสำคัญคือ เราเข้ารอบชิง!

มีผู้เล่้นหลายๆคนที่อยากพูดถึง...


มาเริ่มกันที่ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ที่ทางเวปอย่างเป็นทางการให้ดีกว่า...โอซิล และ อเดบายอร์...โอซิล ยังคงเป็นผู้เล่นที่ทีมพึ่งได้เสมอ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นคนสำคัญของทีม นอกจากจะยิงประตูสำคัญแล้ว ท่าดีใจยังกินใจคนดูในสนาม (และทางบ้าน) อีก! จูบตราสโมสร! เอาใจไปเต็มๆ...


ส่วน บ้ายอร์ ลงมาหลังจากได้ประตูแรกแล้ว ก็ทำประตูประเดิมสนาม เบอร์นาบิว ได้ทันที เป็นการเริ่มต้นที่ดีของศูนย์หน้าโตโก แต่ผมว่าน่าจะยังไม่น่าได้ แมนออฟเดอะแมตช์ เพราะลงมาแป๊บเดียวตอนที่เกมส์ดูเหมือนจะขาดไปแล้ว



อดขำลีลาการฉลองของ มูรินโญ่ ตอน อเดบายอร์ ยิงเข้าไม่ได้...ฉลองไปด้วยวิ่งกลับห้องแต่งตัวไปด้วย...555 เหมือน ซุปเปอร์แมน ยังไงอย่างงั้น...


อย่างไรก็ตาม นอกจากสองคนที่กล่าวไป...ผมขอเสนอ ซามี เคดิร่า และ อัลวาโร่ อาร์เบลัว อีกสองคนท้าชิงตำแหน่งละกัน...เคดิร่า โชว์ฟอร์มหนึ่งในฟอร์มที่ดีที่สุดตั้งแต่ที่เขาย้ายเข้ามาเลยก็ว่าได้ ลูกจ่ายให้ โอซิล นี่งามจริงๆ วันนี้จับคู่ อลอนโซ่ ได้ลงตัวมากๆ ส่วน อาร์เบลัว วันนี้ปิด นาบาส ได้เนียนตาเลย! น่าชื่นชม!!



อีกคนนึงที่เกือบได้ แมนออฟเดอะแมตช์ และ...ผมให้ คาริม เบนเซม่า ซึ่งยิงประตูสำคัญสุดสวยได้ในเลคแรก...ใช่ครับ "เกือบ"...วันนี้โอกาสยิงประตูจะแจ้งที่สุดในเกมส์ก็เป็นของเขานี่แหละในช่วงต้นเกมส์ แต่ทำไม่ได้ โล่งๆ เสากับประตู จากจังหวะลูกซ้ำลูกยิงของ ดิ มาเรีย...นอกจากนั้นก็มีโอกาสจะยิงได้ แต่สุดท้ายก็ไม่มีสกอร์...อย่างไรก็ตาม ถึงจะยิงไม่ได้ แต่การลงมาสร้างสรรค์เกมส์รุกของเขาทำได้ดีมากๆ ทำงานหนัก วิ่งหาพื้นที่ ลงมาเชื่อมเกมส์ เก็บบอลในแดนหน้า วันนี้พี่แกทำหมด ถึงจะยิงไม่ได้แต่มันมีสัญญาณดีๆอย่างอื่นทดแทนที่น่าชื่นชม ดีขึ้นจากแต่ก่อนเยอะ แต่ยังดีขึ้นได้อีก...ขึ้นอยู่กับว่า มู จะให้เวลาไหม?


อีกคนที่ต้องพูดถึงคือ โรนัลโด้...ไม่ใช่พูดถึงในแง่ดีเท่าไร...ฟอร์มหลุดหายไปไหนไม่รู้ โอกาสหลุดไปยิงหนึ่งๆที่ โรนัลโด้ คนเก่าน่าจะทำได้ไม่ยาก แต่สามสี่นัดที่ผ่านมา ดูเหมือนยิงยังไงก็ยิงไม่เข้า...หวังว่าฟอร์มจะกลับมาเร็วๆเน้อ



นอกจากผู้เล่นที่ลงสนามแล้ว มีผู้เล่นที่ไม่ได้ลงสนาม...ไม่สิ ไม่ติดมาในทีมเลยมากกว่า...ที่อยากจะพูดถึงอีกสองคน นั่นคือ เปโดร เลออน และ กาโก้...สื่อรายงานว่าเหตุผลที่ มูรินโญ่ ไม่เรียกมาติดทีมเป็นเพราะทั้งคู่มีเรื่องกันระหว่าง (และหลัง) การฝึกซ้อม...หวังว่าจะเคลียร์กันรู้เรื่องนะ...

เกมส์นัดนี้ส่งเราเข้าชิงชนะเลิศในบอลถ้วย โกปาเดลเรย์ เจอกับ บาร์เซโลน่า ในวันที่ 20 เมษายน 4 วันให้หลังจาก เอล กลาซิโก ใน ลาลีก้า ที่เบอร์นาบิววันที่ 17 เมษายน....2 เอล กลาซิโก ใน 4 วัน!!!

อย่างที่เขียนไปในโำพสต์ก่อนหน้านี้ (ช่วงล่างๆ) ในช่วงเวลาที่เหลือในซีซั่นนี้ เราอาจจะได้เจอกับ บาร์ซ่า ถึง 4 นัด (ภายในเดือน เมษา เดือนเดียว)!! ตอนนี้แน่ๆได้ดูอีก 2...ส่วนอีก 2 ต้องรอลุ้นว่าจะได้เจอกันใน แชมป์เปี่ยนส์ลีก รึเปล่า (และจะเจอกันในรอบไหน)...


นอกจากจะเป็นการการันตีว่าจะเจอกันในนัดชิง โกปาเดลเรย์ แล้ว ยังเป็นการการันตี (99.99%) ว่าจะได้เจอกันในการชิงถ้วย ซุปเปอร์ โกปา (ซึ่งแข่งเหย้าเยือน...) ในช่วงต้นฤดูกาลหน้าด้วย (เอาแชมป์ลีก มาเจอกับแชมป์บอลถ้วย) ซึ่งถึงแม้ทีมใดทีมหนึ่ง (สาธุขอให้เป็นทีมเรา) ได้ทั้งสองแชมป์ ก็ต้องเจอกันอยู่ดี เพราะหากเป็นเช่นนั้น เขาจะเอาทีมที่ได้ทั้งสองแชมป์ (ลีก และ โกปาเดลเรย์) มาเจอกับรองแชมป์ โกปาเดลเรย์ (งงมะ?) เอาเป็นว่าได้เจอกันช่วงก่อนเริ่มฤดูกาลหน้าแน่


สำหรับบอลถ้วย โกปาเดลเรย์ รอบชิง ครั้งสุดท้ายที่ได้แชมป์คือปี 1993...ราวๆ 17 ปีที่แล้ว...หลายๆคนคงเคยได้ยินมาว่า บาร์เซโลน่า เป็นทีมที่มีสถิติการคว้าแชมป์รายการนี้สูงสุด แต่อาจจะไม่รู้ว่า ทีมที่เข้าชิงบ่อยที่สุดคือ เรอัล มาดริด...ครั้งสุดท้ายที่เข้าชิงคือ 7 ปีที่แล้ว (กับ ซาราโกซ่า) แต่ก็ไม่ได้แชมป์ ครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 37 ของสโมสร โดยจากสถิติแล้ว เข้าชิง 37 ได้แชมป์กลับกรุง 17 ครั้ง...หวังว่าปีนี้มันจะเพิ่มเป็น 18 นะ...

ทิ้งท้ายไปด้วยคำพูดสั้นๆของ บัลดาโน่ ผู้อำนวยการสโมสรดีกว่า (เป็นก็เหมือนไม่ได้เป็นแหละตอนนี้)

"พวกเราคือ เรอัล มาดริด...และพวกเราไม่กลัวใครทั้งนั้น" - ฆอร์เก้ บัลดาโน่


hala mdrid!