ระเบิดเวลา

"เพราะผมต้องการจะไป..."

เป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่ โฆเซ่ มูรินโญ่ จะเดินออกจากห้องให้สัมภาษณ์เมื่อวานก่อน หลังจากโดนถามว่า "ทำไมวันนี้ดูคุณเครียดกว่าปกติ" โดย มูรินโญ่ ก็ตอบไปว่า "เพราะผมต้องการจะไป...ผมต้องการจะไป..." เขาพูดไว้แค่นั้น

นักข่าวตอนแรกก็เหมือนจะไม่มีอะไร ก็คิดว่าคงอารมณ์ไม่ดี อยากสัมภาษณ์เสร็จเร็วๆ...แต่หลังจากนั้นก็มีการตีความหมายต่างๆว่า เอ่...มูรินโญ่ อยากจะไปไหน...อยากจะออกไปจากห้องแถลงข่าว หรือ ออกจากการคุมสโมสร เรอัล มาดริด...นอกจากนั้นยังมีการอ้างจากแหล่งข่าววงในว่า มูรินโญ่ หมายถึงจะลาออกจากสโมสรหลังจบซีซั่น

หลายๆคนอาจจะคิดว่าข่าวลือ...ผมก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริง ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

โดยในตอนแรก ปัญหาในเรื่องนี้มันเริ่มตรงที่ อิกวาอิน ตัดสินใจไม่ผ่าตัดทันที และ รอดูอาการ รักษาแบบปกติไปก่อน ซึ่ง มูรินโญ่ ไม่เห็นด้วยเนื่องจากมองว่ายังไงๆมันก็ต้องผ่า และ มูรินโญ่ ก็ถูกตามนั้น อิกวาอิน ก็ต้องผ่าอยู่ดี...สโมสรในตอนนั้นยังแอบหวังว่า อิกวาอิน จะสามารถหายกลับมาเล่นได้ไม่นานเกินรอ จึงไม่มีการดำเนินการเรื่องหากองหน้าตัวตายตัวแทนตามที่ มูรินโญ่ เสนอแนะ (มูรินโญ่ มีข่าวว่าต้องการตัว ฮูโก อัลเมด้า) ซึ่งเมื่อทราบผลว่าต้องผ่า กองหน้าหลายๆคนที่ มูรินโญ่ ต้องการก็ได้สังกัดใหม่กันหมดแล้ว...จุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ มูรินโญ่ ไม่ค่อยพอใจเท่าไร (ออกมาบ่นหลายครั้ง)...ซึ่งหลังจากนั้นก็ชัดเจนว่าต้องหาคนมาแทน อิกวาอิน...คำถามคือ คนๆนั้นจะเป็น มอราต้า กองหน้าดาวรุ่งจากเยาวชน หรือกองหน้าคนใหม่?

ในช่วงหลัง มูรินโญ่ ออกมานับครั้งไม่ถ้วน พยายามกดดันให้สโมสรหากองหน้าใหม่มาแทน กอนซาโล่ อิกวาอิน ที่บาดเจ็บยาวไป อาจจะต้องพักทั้งซีซั่น....ในขณะที่ สโมสร นำโดย ฆอร์เก้ บัลดาโน่ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิกไม่เห็นด้วยกับความต้องการของ มูรินโญ่ และเสนอให้ มูรินโญ่ ใช้งาน อัลวาโร่ มอราต้า กองหน้าในทีมเยาวชน แทนที่ไปก่อน....สิ่งที่เรากำลังติดตามอยู่ตอนนี้คือความแตกแยกทางความคิดระหว่าง โฆเซ่ มูรินโญ่ โค้ชของทีม และ ฆอร์เก้ บัลดาโน่ ผู้อำนวยการสโมสร

บัลดาโน่ เป็นหนึ่งในคนที่ผมชื่นชมปรัชญาในการทำทีมฟุตบอลนะ เขาเชื่อมั่นในการใช้เด็กๆจากชุดเยาวชน เขาเคยคุมทีม เรอัล มาดริด กาสตีย่า หลายปี ก่อนที่จะขึ้นมาทำทีมชุดใหญ่สองปี และ ในช่วงเวลาสองปีกับทีมชุดใหญ่ เขาก็ได้ให้โอกาสทั้ง ราอูล กอนซาเลซ และ โฆเซ่ มาเรีย กูตี ลงสนามเป็นครั้งแรกให้กับทีมชุดขาวด้วย....โดยเฉพาะในรายของ ราอูล ที่ได้ขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่แบบเรียกว่าเป็นขาประจำตั้งแต่อายุ 17...บัลดาโน่ เชื่อใจเด็กๆขนาดส่งลงในเกมส์สำคัญๆอย่าง ดาร์บี้แมตช์ กับ แอตเลติโก มาดริด

ในขณะที่ โฆเซ่ มูรินโญ่ ก็อย่างที่เราทราบๆกันครับ เน้นผลการแข่งขัน เอาชนะไว้ก่อน ก็ไม่น่าแปลกใจทำไม มูรินโญ่ ถึงต้องการกองหน้าที่มีประสบการณ์มาเสริมทีม แทนที่จะคอยปั้นเด็กขึ้นมา...ก็ชัดเจนว่า มูรินโญ่ ยังไม่เชื่อใจในตัว เบนเซม่า และ คิดว่า มอราต้า ยังไม่พร้อม

จริงๆผมค่อนข้างแปลกใจนะ ที่ได้เห็น มูรินโญ่ กับ บัลดาโน่ ทำงานในทีมเดียวกัน...เพราะก่อนหน้าที่จะมา มาดริด เนี่ยก็มีเรื่องมีราวกันมาตลอด โดยเฉพาะ บัลดาโน่ ที่มักเขียนบทความโจมตีสไตล์การทำทีมของ มูรินโญ่ ให้เห็นบ่อยๆ...พอ มูรินโญ่ มาผมคิดว่า บัลดาโน่ อาจจะลาออก เนื่องจากว่า เปเรซ ปลด เปเยกรินี่ ซึ่งเป็นโค้ชที่ บัลดาโน่ เลือกแนะนำเข้ามา และ ไปเอา มูรินโญ่ ที่ปรัชญาในการทำทีมอยู่กันคนละโลกเข้ามา....แต่ บัลดาโน่ กลับทำให้ผมแปลกใจ ด้วยการอยู่ต่อ และ ขอโทษ มูรินโญ่ ที่เคยเขียนวิจารณ์ในอดีต

เหมือนเอาเสือสองตัวที่ไม่ถูกกันให้มาอยู่ในกรงเดียวกัน...ไม่นานเดี๋ยวมันก็ฟัดกัน...ผมก็กลัวว่า มันจะมีปัญหาไหมนะ...แล้วมันก็มีจริงๆ...

หลายๆคนอาจจะงงว่า มันจะมีไว้ทำไมวะไอตำแหน่ง บัลดาโน่ เนี่ย...มีไว้คอยมีเรื่องกับผู้จัดการทีมหรือไง ในอังกฤษไม่เห็นมีเลย...ส่วนตัวผมว่าตำแหน่งผู้อำนวยการนี่มันก็เหมาะสมกับทีมในสเปนนะครับ โดยเฉพาะทีมที่เปลี่ยนผู้จัดการกันถี่ๆ ผู้อำนวยการจะได้คอยดูแลทิศทางของสโมสร คอยดูแลแผนการในระยะกลางและยาว ไม่ให้โครงสร้างสโมสรผิดเพี้ยน โดยทำงานร่วมกับโค้ชที่คอยดูแลผลงานในสนาม เมื่อเปลี่ยนผู้จัดการทีมจะได้ไม่มีปัญหาอะไรมากนัก คอยเป็นตัวเชื่อมระหว่างประธานและผู้จัดการทีม...

ผู้อำนวยการ และ โค้ช ต้องทำงานร่วมกัน คุยกันภาษาเดียวกันให้รู้เรื่อง ผู้อำนวยการต้องฟังความเห็นผู้จัดการทีม และ พิจราณากับแผนการในระยะยาวของสโมสร ทั้งในเรื่องทิศทางในการทำทีม และ ต้องคอยเช็คเรื่องการเงินด้วย....ก่อนที่จะได้ข้อสรุป และ ให้ประธานสโมสรยืนยันเป็นอันสิ้นสุด

ปัญหาของสโมสร เรอัล มาดริด คือตำแหน่งผู้อำนวยการถูกแทรกแทรงโดยประธานสโมสร และถูกบังคับให้จ้างผู้จัดการทีมที่ตัวเขาไม่ต้องการ หรือไม่แม้กระทั่งนับถือ...ตรงนั้นแหละปัญหา...ความคิดเห็นแตกต่างกันมาก ทำให้มันคุยกันไม่ค่อยจะรู้เรื่อง...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เหตุการณ์แบบนี้เกิดกับ มาดริด ก่อนหน้านี้ไม่นาน กัลเดร่อน ตัดสินใจปลด คาเปลโล่ และตั้ง ชูสเตอร์ มาคุมแทน ซึ่ง มิยาโตวิช ไม่เห็นด้วย (เขาเป็นคนนำ คาเปลโล่ มา) และทุกๆคนก็เห็นว่าสุดท้่ายมันจบยังไง...ฤดูกาลแรกอาจจะไม่มีปัญหาอะไรมากมาย...แต่พอเข้าฤดูกาลที่สองเริ่มได้กลิ่น ชูสเตอร์ ทะเลาะกับ มิยาโตวิช เรื่องการซื้อขายนักเตะ ซัมเมอร์ที่มีข่าวกับ โรนัลโด้ รายวัน แล้วสุดท้ายไม่ได้ แล้วไปขาย โรบินโญ่ นั่นแหละ สุดท้ายผลงานในซีซั่นนั้นก็น่าผิดหวัง ครึ่งฤดูกาล ชูสเตอร์ โดนปลดออก...หลังจากนั้นก็ออกมาแฉว่า คุยกันไม่รู้เรื่อง ตัวเขาต้องการนักเตะอย่าง เชสก์, อัลเวส, และ อื่นๆ แต่ มิยาโตวิช ไม่ฟังความเห็นเขาเลย

นี่สินะที่เขาเรียกว่า "ระเบิดเวลา"...ไม่ช้าก็นานเดี๋ยวมันก็ระเบิด (ก่อนหน้าจะเถียงกันเรื่องตัวแทน อิกวาอิน มูรินโญ่ ก็เคยออกมาแขวะๆ บัลดาโน่ หลังเกมส์กับ เซบีย่า ว่าไม่เคยออกมาช่วยปกป้องสโมสรเลย ให้เขารับหน้าอยู่คนเดียวก่อนที่เรื่องจากซาๆไป)

โดยท่านประธาน ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ซึ่งสำหรับตัวผม เป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมดนี้ มีความเห็เรื่องนี้ ดูเหมือนจะอยู่ฝั่ง ฆอร์เก้ บัลดาโน่...

ทั้งคู่ (เปเรซ และ บัลดาโน่) ดูจะผิดหวังที่เกมส์นัดเยือน เลบันเต้ ในโกปาเดลเรย์ มอราต้่า ไม่ได้รับโอกาสลงสนาม แม้ว่าสกอร์จะนำอยู่ถึง 8 ลูกจากนัดแรกก็ตาม...นอกจากนั้น บัลดาโน่ ยังได้รับข้อเสนอจากสโมสรต่างๆขอยืม ขอซื้่อ มอราต้า ไปใช้ในช่วงตลาดหน้าหนาวนี้ ยิ่งทำให้ เปเรซ เชื่อว่า มอราต้า ดีพอกับการที่จะขึ้นมาเป็นกองหน้าตัวสำรองของทีม โดยหนึ่งในข้อเสนอที่เล็ดลอดมาผ่านสื่อคือข้อเสนอของ เกตาเฟ่ ที่ขอยืม มอราต้า ไปใช้ แต่ บัลดาโน่ ก็ปฏิเสธไปทันที

ยิ่งในช่วงหลังๆ มอราต้า ฟอร์มฮอตเหลือเกินกับ กาสตีย่า ในสองเกมส์หลังสุดยิงไปสาม หลายๆคนยกให้เป็นแมนออฟเดอะแมตช์ ฟอร์มของ กาสตีย่า ก็ดีขึ้นผิดหูผิดตาหลังจากได้ โทริล โค้ชใหม่เข้ามาทำทีม คนดูในสนามก็เยอะขึ้น...ซึ่งในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจาก มอราต้า โชว์ทักษะเลี้ยงเข้าไปยิงประตู แฟนๆในสนามก็พากันตะโกน "เราต้องการ มอรา้ต้า เราต้องการ มอรา้ต้า!!" หลังเกมส์ เอมิลิโอ บูตราเกนโญ่ ตำนาน และ ผู้อำนวยการสโมสร ซึ่งก็ได้เข้าไปดูก็กล่าวชื่นชม มอราต้า แถมยังแิอบกัด มูรินโญ่ ว่าเสื้อทีมใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด ไม่ใช่ใครจะเข้ามาใส่ก็ได้ อัลเมเด้า ยังไม่ดีพอ....นอกจากนั้น ไอตอร์ การันก้า ผู้ช่วยของ มูรินโญ่ เองยังบอกว่า ซาราเบีย กับ มอราต้า เป็นสองผู้เล่นที่คุณภาพพอจะขึ้นมาเป็นสำรองให้ทีมชุดใหญ่ (ต้นซีซั่นก็บอกว่า เฆสเซ่ น่าจับตามอง...ซึ่งล่าสุด เฆสเซ่ ก็ได้ขึ้นมาเล่นใน กาสตีย่า แล้ว!)

ถึงผลงาน มอราต้า จะดีก็ตาม....มูรินโญ่ คิดว่าเด็กคนนี้ยังไม่พร้อม และ ต้องการกองหน้าคนใหม่...ออกมาบ่นหลายต่อหลายทีว่าต้องการกองหน้าคนใหม่ และ การที่เขาไม่ยอมส่งกองหน้าลงในเกมส์กับ อัลเมเรีย สื่อหลายๆสื่อมองว่าเป็นการท้าทายผู้บริหารทีมด้วย...

ผู้บริหารเมื่อได้คุย ก็เลยหากองหน้าที่พอเอามาแทนได้ในระยะสั้น และก็มาสรุปได้ที่ รุด ฟานนิสเตอรอย อดีตกองหน้าทีมเรานี่แหละ ถือว่าเป็นคนที่ฟิตตามที่ มูรินโญ่ ต้องการเลย มีประสบการณ์ เป็นหน้าเป้า เล่นบอลยุโรปได้ แถมยังมีโบนัสเสริมคือเป็นอดีตผู้เล่น มาดริด น่าจะคุ้นเคยกับบรรยกาศดี เรื่องการปรับตัวไม่น่าจะเป็นปัญหาซึ่งเรื่องนี้สำคัญ เพราะเราต้องการใช้งานในช่วงสั้นๆ ถ้าปรับตัวนาน เวลาที่ได้ใช้เต็มประสิทธิภาพก็ยิ่งเหลือน้อย อีกหนึ่งข้อได้เปรียบคือ รุด มาแล้วน่าจะเป็นประโยชน์กับรุ่นน้องอย่าง เบนเซม่า หรือแม้กระทั่ง มอราต้า ที่จะได้ เรียนรู้เคล็ดต่างๆ....ข้อเสี่ยงอย่างเดียวคือปัญหาเรื่องความฟิตนั่นแหละ...นอกนั้นหายห่วง

ก็ต้องรอดูว่าจะได้มาร่วมทีมไหม ฮัมบูร์ก แกก็ไม่ปล่อยมาง่ายๆด้วยสิ...

นอกจากเหตุผลที่ต้องการให้โอกาส มอราต้า แล้ว....เหตุผลที่สโมสรตัดสินใจไม่ซื้อกองหน้าแพงๆในช่วงปิดตลาดหน้าหนาวนี้อาจจะเป็นเพราะ สโมสรได้มีข้อตกลงที่จะนำ เฟร์นานโด ยอร์เรนต้ มาร่วมทีมในซัมเมอร์เรียบร้อยแล้วก็เป็นได้ โดยมีข่าวออกมาหลายต่อหลายทีว่าประธาน บิลเบา กับ เปเรซ ตกลงกันแล้วว่าจะขายช่วงซัมเมอร์ เพราะว่าถ้าขายตอนนี้ การเลือกตั้งสโมสรของบิลเบาที่กำลังจะถึง มีสิทธิส่งผลกระทบกับคะแนนเสียงเหมือนกัน เพราะฉะนั้นสโมสรจึงต้องการเป้าหมายระยะสั้นไปก่อน

ถึงแม้การได้ รุด ฟานนิสเตอรอย กลับมาอาจจะทำให้บรรยกาศในสโมสรเย็นลงบ้าง (ถ้าได้นะ*) แต่ "ระเบิดเวลา" ลูกนั้นยังอยู่ครับ ความคิดเห็นคนละขั้วของ มูรินโญ่ กับ บัลดาโน่ ยังคงต้องปะทะกันต่อไป...จะมีปัญหาในอนาคตอีกไหม...ใครจะทนไม่ได้ชิงลาออกก่อน...แฟนๆในสนามจะมีการตอบสนองต่อเรื่องดัีงกล่าวอย่างไีร...รอดูระเบิดลูกนี้กันต่อไป...

hala madrid!